top of page

หมาท้องเสียทำยังไงดี? เช็กสาเหตุ อาการ และวิธีดูแลเบื้องต้น

  • Writer: phyathai7 pet care
    phyathai7 pet care
  • 4 days ago
  • 2 min read

Updated: 3 days ago

สุนัขนอนซึมอยู่บนพรมในบ้าน แสดงอาการไม่สบายซึ่งอาจเป็นสัญญาณของท้องเสีย

เชื่อว่าเวลาน้องหมาของเรามีอาการถ่ายเหลวหรือท้องเสีย เจ้าของมักจะรู้สึกกังวลใจทันที เพราะไม่แน่ใจว่าเกิดจากสาเหตุเล็กน้อยอย่างการกินอาหารผิดปกติ หรือเป็นสัญญาณของโรคร้ายแรงที่ต้องรีบรักษา การแยกแยะว่าอาการแบบไหนควรดูแลเองที่บ้าน และแบบไหนที่ต้องรีบพาไปหาหมอจึงเป็นสิ่งสำคัญ บทความนี้จะช่วยให้เจ้าของน้องหมาทุกท่านเข้าใจถึงสาเหตุที่ทำให้น้องหมาถ่ายเหลว มีปัญหาระบบขับถ่ายผิดปกติ อาการที่ควรสังเกต วิธีดูแลเบื้องต้น รวมถึงแนวทางการป้องกัน เพื่อให้คุณมั่นใจได้ว่าน้องหมาจะได้รับการดูแลอย่างเหมาะสมและปลอดภัย


สาเหตุที่ทำให้หมาท้องเสีย


อาการท้องเสียในสุนัขเกิดได้จากหลายสาเหตุ สามารถแบ่งกลุ่มใหญ่ ๆ ได้ดังนี้


1. สาเหตุจากอาหาร

  • กินอาหารไม่สะอาดหรือของเสีย เช่น เศษอาหารตกพื้น อาหารบูด หรืออาหารที่ไม่สะอาด อาจทำให้สุนัข ถ่ายเหลวบ่อย แก้ยังไง ก็ไม่หาย จนกลายเป็นอาการรุนแรงได้

  • เปลี่ยนอาหารกะทันหัน การเปลี่ยนอาหารโดยไม่ค่อย ๆ ปรับช่วง 7–10 วัน จะทำให้ระบบย่อยอาหารปรับตัวไม่ทัน จนทำให้เกิดปัญหาหมาถ่ายเหลวชั่วคราว

  • แพ้อาหารบางชนิด เช่น โปรตีนไก่ นมวัว หรืออาหารที่มีสารปรุงแต่ง อาจทำให้สุนัขบางตัว ท้องเสียบ่อย แก้ยังไง ก็ไม่ดีขึ้นถ้าไม่ได้เปลี่ยนสูตรอาหารที่เหมาะสม


สุนัขกำลังกินต้นไม้และดินภายในบ้าน ซึ่งอาจเป็นสาเหตุหนึ่งของอาการท้องเสียในสุนัข

2. สาเหตุจากเชื้อโรค


  • การติดเชื้อแบคทีเรียหรือไวรัส เช่น โรคพาร์โวไวรัส หรือโรคหัดสุนัข มักทำให้มีอาการรุนแรง เช่น ท้องเสียเป็นน้ำ เหม็นคาว, ถ่ายมีเลือดปน หรืออาเจียนร่วมด้วย

  • พยาธิในระบบทางเดินอาหาร พยาธิในสุนัขถือว่าเป็นปัญหาสุขภาพที่อันตราย เพราะพยาธิจะไปแย่งสารอาหารในร่างกาย ทำให้สุนัขอ่อนแอ น้ำหนักลดลง และภูมิคุ้มกันต่ำลงได้ อีกทั้งยังทำให้ระบบย่อยอาหารผิดปกติจนถ่ายเหลวหรือมีมูกเลือดปนออกมา หากไม่ได้รับการรักษาทันเวลาอาจส่งผลร้ายแรงต่อสุขภาพของน้องหมาในระยะยาว


3. สาเหตุจากพฤติกรรมและสิ่งแวดล้อม


  • สุนัขบางตัวไวต่อความเครียด หากย้ายบ้าน เจอสัตว์ใหม่ หรือมีการเปลี่ยนแปลงในครอบครัว อาจทำให้เราพบว่าสุนัขถ่ายเหลว ร่าเริง ปกติ ได้ แม้ดูไม่ซึม แต่ก็เป็นสัญญาณที่เจ้าของไม่ควรมองข้าม


4. สาเหตุจากโรคเรื้อรังหรือภายใน


สุนัขที่ป่วยเป็นโรคเรื้อรังหรือมีความผิดปกติของอวัยวะภายในก็สามารถทำให้ท้องเสียได้เช่นกัน โดยโรคเรื้อรังที่มักทำให้สุนัขมีอาการท้องเสีย มีดังนี้


  • โรคตับ : ตับทำหน้าที่สำคัญในการกำจัดสารพิษและช่วยย่อยอาหาร หากตับทำงานผิดปกติ ร่างกายสุนัขจะไม่สามารถย่อยและดูดซึมอาหารได้อย่างเต็มที่ ส่งผลให้เกิดอาการท้องเสีย อุจจาระอาจมีสีผิดปกติ เช่น สีเหลืองหรือซีด รวมถึงอาจมีอาการร่วมอย่าง อ่อนเพลีย ตัวเหลือง เบื่ออาหาร

  • โรคไต : โรคไตเรื้อรังทำให้ร่างกายสัตว์เลี้ยงไม่สามารถกรองของเสียออกทางปัสสาวะได้ดี ส่งผลต่อสมดุลของเกลือแร่และของเหลวในร่างกาย ความผิดปกตินี้สามารถกระตุ้นให้ลำไส้ทำงานผิดปกติ เกิด ท้องเสียเรื้อรัง คลื่นไส้ อาเจียน และบางครั้งอุจจาระอาจมีเลือดปน

  • โรคลำไส้อักเสบเรื้อรัง (Inflammatory Bowel Disease: IBD) : เป็นภาวะที่ในลำไส้ของสุนัขมีเซลล์อักเสบมากผิดปกติ ทำให้ผนังลำไส้อักเสบและบวม ส่งผลต่อการดูดซึมอาหาร สุนัขที่เป็นโรคนี้จะมีอาการท้องเสียเป็นๆ หายๆ ร่วมกับ น้ำหนักลด เบื่ออาหาร และอาจมีอาการปวดท้อง


อาการที่ควรสังเกตเมื่อน้องหมาท้องเสีย


เวลาน้องหมามีอาการถ่ายผิดปกติ เจ้าของไม่ควรดูแค่ความเหลวหรือถี่ของการถ่ายเท่านั้น แต่ควรสังเกตร่วมกับพฤติกรรมอื่น ๆ ด้วย เพื่อประเมินว่าอาการนั้นเป็นเพียงชั่วคราวหรืออาจรุนแรงจนต้องพบสัตวแพทย์


  • อุจจาระเหลวหรือเป็นน้ำ อาจมีมูกหรือเลือดปน : หากสุนัขถ่ายเหลวเป็นน้ำติดต่อกันนาน ท้องเสีย เป็นน้ํา เหม็นคาว  หรือสุนัขถ่ายเป็นเลือดหรือมีเลือดปน ถือเป็นสัญญาณอันตราย อาจบ่งบอกถึงการติดเชื้อหรือลำไส้อักเสบรุนแรง ควรรีบพาไปตรวจ

  • อาเจียนร่วมกับการถ่ายผิดปกติ : ถ้าน้องหมาอ้วกหรือมีอาการอาเจียนบ่อย ๆ ร่วมกับการถ่ายเหลว ร่างกายจะสูญเสียน้ำและเกลือแร่เร็วมาก ทำให้เสี่ยงขาดน้ำและอ่อนแรงได้ง่าย

  • ซึม ไม่ค่อยเล่น เบื่ออาหาร หรือดื่มน้ำน้อยผิดปกติ : หากพบว่าสุนัขมีอาการซึม ไม่ร่าเริง พฤติกรรมที่เปลี่ยนไปอย่างชัดเจน บ่งบอกว่าน้องหมาเริ่มไม่สบายหรือมีความผิดปกติบางอย่างเกิดขึ้นในร่างกาย หากปล่อยไว้โดยไม่แก้ไข อาการอาจทรุดลงได้เร็ว

  • มีไข้ ตัวร้อน หรือหายใจแรงผิดปกติ : อาการเหล่านี้บ่งบอกว่ามีความผิดปกติภายในร่างกายมากกว่าการท้องเสียธรรมดา เช่น การติดเชื้อรุนแรง หากพบว่าน้องหมามีอาการเหล่านี้ควรรีบพาไปพบสัตวแพทย์ทันที


วิธีดูแลเบื้องต้นเมื่อหมาท้องเสีย


การดูแล สุนัขท้องเสีย รักษาเบื้องต้น สามารถทำได้ที่บ้าน หากอาการยังไม่รุนแรง


  1. งดอาหารชั่วคราว : เพื่อให้ลำไส้ได้พัก แนะนำงดอาหาร 12–24 ชั่วโมง แต่ห้ามงดน้ำเด็ดขาด

  2. อาหารที่ควรให้หลังงดอาหาร : ในช่วงนี้ควรให้อาหารที่ย่อยง่าย เช่น ข้าวต้มเปล่า (ไม่ใส่เครื่องปรุง) อกไก่ต้ม หรืออาหารย่อยง่าย หลีกเลี่ยงนมวัว อาหารเม็ด หรือขนมสุนัขเพราะอาจจะทำให้อาการแย่ลงได้

  3. รักษาความสะอาดร่างกาย : ใช้ผ้าชุบน้ำอุ่นเช็ดตัวและก้นน้องหมาให้สะอาดเพื่อสุขอนามัยของน้องหมาที่ดีและช่วยลดสิ่งสกปรกที่ปนเปื้อนตามร่ายกายได้

  4. แยกน้องออกจากสัตว์ตัวอื่น : ถ้าสงสัยว่าเป็นโรคติดต่อ เช่น โรคติดเชื้อพาร์โวไวรัส ควรแยกเลี้ยงเพื่อป้องกันการแพร่เชื้อและรีบพาไปพบสัตวแพทย์โดยเร็วที่สุด

  5. ห้ามให้ยาคนเด็ดขาด : เพราะอาจจะทำให้สุนัขเป็นอันตรายถึงแก่ชีวิตได้ และควรเฝ้าสังเกตอาการอย่างต่อเนื่อง หากน้องหมาอาการยังไม่ดีขึ้นใน 2 วัน ควรรีบพาไปพบสัตวแพทย์ทันที


หมาท้องเสียแบบไหนต้องพาไปหาหมอ


สุนัขนั่งอยู่บนโต๊ะตรวจของสัตวแพทย์ เพื่อเข้ารับการรักษาอาการท้องเสี

อาการน้องหมาท้องเสียบางครั้งอาจหายได้เอง แต่ก็มีหลายกรณีที่ไม่ควรปล่อยทิ้งไว้ เพราะอาจเป็นสัญญาณของโรคร้ายแรง หากพบอาการเหล่านี้ ควรรีบพาไปพบสัตวแพทย์ทันที


1. ถ่ายมีเลือดปน หากหมาถ่ายเป็นเลือด อุจจาระของสุนัขมีเลือดสดหรือเลือดคล้ำปนออกมา ถือเป็นอาการที่ผิดปกติอย่างชัดเจน อาจเกี่ยวข้องกับการอักเสบของลำไส้ การติดเชื้อ หรือแผลในทางเดินอาหาร


2. ถ่ายเป็นน้ำและมีกลิ่นแรงผิดปกติ ถ้าพบว่าสุนัขถ่ายเหลวเป็นน้ำใสหรือมีสีเข้มและมีกลิ่นแรงมาก หรือ ถ่ายเป็นน้ํา มีกลิ่นคาว มักบ่งบอกถึงความผิดปกติรุนแรงภายในลำไส้ และเสี่ยงทำให้ร่างกายขาดน้ำอย่างรวดเร็ว


3. อาเจียนซ้ำ ๆ ร่วมกับท้องเสีย เมื่อหมาอ้วกบ่อย ๆ ร่วมกับถ่ายผิดปกติ จะทำให้สูญเสียน้ำและสารอาหารมากขึ้น ร่างกายจะอ่อนแรงลงเรื่อย ๆ และไม่สามารถฟื้นตัวเองได้


4. มีอาการซึม ตัวสั่น หรือไม่ร่าเริงเหมือนเดิม หากสุนัขมีอาการซึม ไม่ร่าเริง ไม่กินอาหาร หรือมีอาการตัวสั่นร่วมด้วย แสดงว่าร่างกายเริ่มอ่อนแอและมีการเปลี่ยนแปลงทางระบบภายในที่น่าเป็นห่วง


5. อาการต่อเนื่องนานเกิน 24–48 ชั่วโมง แม้อาการท้องเสียบางครั้งจะเกิดขึ้นเพียงชั่วคราว แต่หากยังคงมีอาการต่อเนื่องหลายวันโดยไม่ดีขึ้น เช่น ท้องเสียติดต่อกัน 3 วัน ถือว่าไม่ใช่เรื่องปกติ และควรรีบพาไปพบสัตวแพทย์ทันที


6. กรณีลูกสุนัขควรต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษ ลูกสุนัขมีร่างกายที่ไวต่อการสูญเสียน้ำได้เร็วมาก หากมีอาการถ่ายเหลวหรืออาเจียนร่วมด้วย อาจจะเสี่ยงต่อการเสียชีวิตได้ภายในเวลาไม่นาน


7. มีภาวะขาดน้ำ เจ้าของสามารถตรวจเช็กว่าสุนัขท้องเสียมีภาวะขาดน้ำร่วมด้วยหรือไม่ โดยลองดึงหนังบริเวณหลังหรือคอของสุนัขขึ้นมาเล็กน้อย หากหนังไม่เด้งกลับสู่ตำแหน่งเดิมอย่างรวดเร็ว (หนังยังคงตั้งค้างไว้หรือค่อยๆ คืนกลับแต่ช้ามาก) แสดงว่าน้องกำลังอยู่ในภาวะขาดน้ำ ซึ่งเป็นอันตรายและควรรีบพาไปพบสัตวแพทย์ทันทีทางออกที่ดีที่สุดของการรักษาสุนัขท้องเสียคือพาน้องหมาไปพบสัตวแพทย์เพื่อรับการตรวจวินิจฉัยที่ถูกต้อง แทนที่จะคาดเดาหรือหาวิธีรักษาเอง เพราะการรักษาที่ล่าช้าอาจทำให้อาการรุนแรงขึ้นได้ โดยหากสงสัยว่าน้องหมามีปัญหาท้องเสียสามารถพามาตรวจได้ที่ โรงพยาบาลสัตว์พญาไท 7 ที่มีศูนย์โภชนาการและทางเดินอาหาร รวมทั้งบริการตรวจเลือด X-ray ห้องปลอดเชื้อ และทีมสัตวแพทย์มืออาชีพที่พร้อมดูแลน้องหมาของคุณตลอด 24 ชั่วโมง


คำแนะนำเพิ่มเติมในการป้องกันหมาท้องเสีย


  • เลือกอาหารที่ปลอดภัยและย่อยง่าย : การให้อาหารที่มีคุณภาพ เหมาะสมกับช่วงวัย และปราศจากสารปรุงแต่ง จะช่วยให้ระบบย่อยทำงานเป็นปกติ และลดโอกาสเกิดอาการท้องเสียจากการแพ้หรือการย่อยไม่สมบูรณ์

  • หลีกเลี่ยงอาหารคน : อาหารของคนมักมีเครื่องปรุงรส น้ำมัน หรือรสชาติจัด ซึ่งไม่เหมาะกับสุนัขและอาจทำให้ระบบย่อยทำงานหนักจนเกิดอาการผิดปกติได้

  • รักษาความสะอาดของภาชนะและน้ำดื่ม ชามอาหารและชามน้ำที่ไม่ได้ล้างบ่อยจะสะสมเชื้อโรคและสิ่งสกปรกได้ง่าย เจ้าของควรทำความสะอาดอย่างสม่ำเสมอ และเปลี่ยนน้ำใหม่ให้ทุกวัน เพื่อลดความเสี่ยงจากการติดเชื้อในทางเดินอาหาร

  • ถ่ายพยาธิและตรวจสุขภาพประจำปี พยาธิเป็นปัญหาที่พบได้บ่อยในสุนัขและส่งผลต่อระบบย่อยและสุขภาพโดยรวม การถ่ายพยาธิอย่างสม่ำเสมอ และการตรวจสุขภาพกับสัตวแพทย์เป็นประจำ จะช่วยให้ตรวจพบปัญหาได้ตั้งแต่เนิ่น ๆ และรักษาได้อย่างทันท่วงที

  • ฉีดวัคซีนให้ครบ โรคไวรัสบางชนิดที่มีผลต่อระบบทางเดินอาหารรุนแรงและอันตรายมาก การพาสุนัขไปรับวัคซีนตามกำหนดจะช่วยป้องกันโรคเหล่านี้ได้ และทำให้น้องหมามีภูมิคุ้มกันที่แข็งแรง



อาการ หมาท้องเสีย อาจเป็นเรื่องเล็กน้อยจากการกินอาหารไม่ถูกต้อง แต่บางครั้งก็อันตรายถึงชีวิตได้ หากมีอาการร่วม เช่น อาเจียน เลือดปน หรือท้องเสียไม่หยุดเกิน 2 วัน เจ้าของควรรีบพาไปพบสัตวแพทย์ ไม่ควรรอให้หายเอง


การดูแลเบื้องต้น เช่น งดอาหารชั่วคราว เลือกอาหารย่อยง่าย และรักษาความสะอาด จะช่วยให้น้องหมาฟื้นตัวไวขึ้น แต่หากไม่มั่นใจ แนะนำปรึกษาทีมแพทย์ที่ โรงพยาบาลสัตว์พญาไท 7 ซึ่งพร้อมดูแลน้องหมาอย่างครบวงจร ตั้งแต่วินิจฉัยโรค ตรวจเลือด X-ray ไปจนถึงห้องพักน้องหมาสำหรับโรคทางเดินอาหาร พร้อมให้บริการ 24 ชั่วโมง ด้วยทีมคุณหมอที่มีประสบการณ์เพื่อรักษาให้น้องหมาของคุณกลับมาแข็งแรงได้ดังเดิม

Comments


© 2025 by PHYATHAI 7 Group Co., Ltd

  • Instagram
  • TikTok
line-me.png
bottom of page