top of page

แมวฉี่ไม่ออก อันตรายไหม? รู้สาเหตุ วิธีรักษา และการดูแลที่เจ้าของควรรู้

  • Writer: phyathai7 pet care
    phyathai7 pet care
  • Oct 20
  • 2 min read
สัตวแพทย์ตรวจร่างกายแมวเพื่อตรวจหาความผิดปกติของระบบทางเดินปัสสาวะ

น้องแมวฉี่ไม่ออก อันตรายไหม ต้องทำยังไงดี?


เชื่อว่าปัญหาน้องแมวฉี่ไม่ออกนั้นเป็นหนึ่งในเรื่องที่เจ้าของแมวหลายคนต้องเคยเป็นกังวลแน่ๆ โดยเฉพาะเมื่อน้องแมวมีพฤติกรรมการเข้ากระบะทรายเปลี่ยนไป เช่น เข้าห้องน้ำบ่อยกว่าปกติ แต่กลับไม่มีปัสสาวะออกมา หรือแมวร้องเสียงดังทุกครั้งที่พยายามปัสสาวะ ถ้าน้องแมวมีปัญหาเหล่านี้ห้ามมองข้ามเด็ดขาด เพราะแท้จริงแล้วปัญหา แมวฉี่ไม่ออก เป็นสัญญาณอันตรายอย่างยิ่ง และหากปล่อยไว้อาจทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนถึงขั้นเสียชีวิตได้


หากเจ้าของพบว่าน้องแมวมีปัญหาปัสสาวะไม่ออก ห้ามชะล่าใจและปล่อยเรื้อรังโดยคิดว่าให้น้องแมวหายเอง หากแต่ควรรีบพาน้องแมวไปตรวจกับสัตวแพทย์โดยเร็วที่สุด เพื่อให้ได้รับการตรวจและรักษาอย่างถูกต้องต่อไป


สำหรับในบทความนี้เราจะขอพาเจ้าของน้องแมวทุกท่านไปทำความเข้าใจถึงอาการ สาเหตุ วิธีดูแลเบื้องต้น รวมถึงแนวทางการป้องกันปัญหาน้องแมวฉี่ไม่ออกกัน


อาการแมวฉี่ไม่ออก ที่ควรสังเกต


อาการของแมวที่มีปัญหาเกี่ยวกับระบบทางเดินปัสสาวะอาจแสดงออกได้หลายรูปแบบ โดยสัญญาณอันตรายที่เจ้าของควรทราบมีดังนี้


  • เข้ากระบะทรายบ่อยผิดปกติ แต่ไม่มีปัสสาวะออกมาเลย

  • ปัสสาวะออกมาน้อยหรือเป็นเพียงหยดเล็ก ๆ

  • มีเลือดปนในปัสสาวะ หรือสีของปัสสาวะเข้มผิดปกติ

  • กลิ่นปัสสาวะแรงกว่าปกติ

  • นั่งหมอบในท่าปัสสาวะเป็นเวลานาน เหมือนเจ็บปวดหรือพยายามเบ่งแต่ไม่ออก

  • เลียอวัยวะเพศบ่อย เพื่อบรรเทาความระคายเคือง

  • มีอาการซึม ไม่ร่าเริง เบื่ออาหาร หรืออาเจียนร่วมด้วย (โดยเฉพาะในกรณีที่อาการรุนแรง)


สาเหตุที่ทำให้แมวฉี่ไม่ออก


1. โรคนิ่ว หรือการอุดตันในระบบทางเดินปัสสาวะ หนึ่งในสาเหตุที่พบบ่อยคือการเกิด นิ่วในแมว โดยนิ่วที่เกิดขึ้นนั้นมักเป็นนิ่วในทางเดินปัสสาวะ ซึ่งมักเกิดจากการตกผลึกของเกลือแร่ เช่น สตรูไวท์ (Struvite) หรือแคลเซียมออกซาเลต (Calcium Oxalate) เมื่อผลึกเหล่านี้รวมตัวจนเกิดเป็นก้อนนิ่ว อาจไปอุดตันท่อปัสสาวะ ทำให้แมวไม่สามารถขับปัสสาวะออกมาได้ตามปกติ อาการของ นิ่วในแมว ที่เจ้าของควรสังเกตคือแมวเบ่งฉี่บ่อยแต่ปัสสาวะไม่ออก แมวฉี่นาน แต่ไม่มีปัสสาวะออกมา หรือแมวฉี่เป็นเลือด บางครั้งจะร้องเสียงดังเพราะเจ็บปวด หากปล่อยไว้นานโดยไม่ได้รับการรักษา อาจทำให้เกิดการสะสมของของเสียในร่างกายและนำไปสู่ภาวะไตวายเฉียบพลันที่อันตรายถึงชีวิตได้


2. พฤติกรรมจากความเครียด : แมวเป็นสัตว์ที่มีความไวต่อสิ่งแวดล้อมและอารมณ์ ความเครียดจากการย้ายบ้าน การนำแมวตัวใหม่เข้ามาในบ้าน หรือการเปลี่ยนแปลงต่าง ๆ รอบตัว สามารถกระตุ้นให้เกิดภาวะที่เรียกว่า Feline Idiopathic Cystitis (FIC) หรือกระเพาะปัสสาวะอักเสบแบบไม่ทราบสาเหตุ ภาวะนี้จะทำให้แมวมีความผิดปกติในการขับถ่ายปัสสาวะ และอาจพัฒนาไปสู่การอุดตันของระบบขับถ่ายปัสสาวะได้เช่นเดียวกัน


3. การดื่มน้ำน้อย : การดื่มน้ำน้อยเป็นอีกปัจจัยสำคัญที่ทำให้แมวปัสสาวะไม่ออก เนื่องจากการดื่มน้ำน้อยทำให้ แมวฉี่น้อย และทำให้ปัสสาวะมีความเข้มข้นสูงและเสี่ยงต่อการเกิดผลึกหรือนิ่วได้มากขึ้น ส่งผลทำให้เกิด  นิ่วในแมว ตามมา โดยสิ่งแวดล้อมที่ไม่เอื้อต่อการกระตุ้นให้แมวดื่มน้ำ เช่น การใช้ชามน้ำที่ไม่สะอาดหรือไม่มีน้ำไหลเวียนเหมือนน้ำพุแมว ก็มีส่วนทำให้แมวไม่อยากดื่มน้ำเช่นกัน


4. อาหารที่ไม่เหมาะสม : อาหารแมวที่มีปริมาณแร่ธาตุบางชนิดสูงเกินไป เช่น แมกนีเซียม ฟอสฟอรัส หรือแคลเซียม อาจเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดผลึกในทางเดินปัสสาวะได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในแมวที่ไม่ค่อยดื่มน้ำ เมื่อร่างกายไม่สามารถขับสารส่วนเกินออกมาอย่างเพียงพอ ก็จะสะสมจนก่อให้เกิดนิ่วและทำให้ปัสสาวะติดขัดในที่สุด


5. กระเพาะปัสสาวะอักเสบ : แมวกระเพาะปัสสาวะอักเสบเป็นอีกสาเหตุที่พบบ่อยที่ทำให้แมวฉี่ไม่ออก โดยอาจเกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรีย ความเครียด หรือสาเหตุอื่น ๆ ที่ทำให้เยื่อบุภายในกระเพาะปัสสาวะเกิดการอักเสบ แมวที่มีภาวะนี้มักจะปัสสาวะบ่อยครั้ง ปัสสาวะมีเลือดปน และบางครั้งเบ่งแล้วเจ็บจนทำให้ปัสสาวะไม่ออก การอักเสบยังส่งผลให้กระเพาะปัสสาวะบวมและระคายเคือง ทำให้การทำงานของระบบขับถ่ายผิดปกติไปจากเดิม


6. โรคอ้วน : แมวที่มีน้ำหนักเกินมักจะเคลื่อนไหวน้อยลงและดื่มน้ำน้อย ทำให้มีความเสี่ยงต่อการเกิดนิ่วในปัสสาวะมากขึ้น นอกจากนี้โรคอ้วนยังเชื่อมโยงกับภาวะเมตาบอลิกและความผิดปกติของระบบร่างกายหลายอย่างที่อาจเพิ่มโอกาสให้เกิดการอุดตันในทางเดินปัสสาวะ การควบคุมน้ำหนักจึงเป็นปัจจัยสำคัญในการลดความเสี่ยงต่อปัญหาน้องแมวฉี่ไม่ออกได้


7. เนื้องอกหรือมะเร็ง : แม้จะไม่ใช่สาเหตุที่พบได้บ่อยเท่าปัจจัยอื่น แต่การเกิดเนื้องอกหรือมะเร็งในระบบทางเดินปัสสาวะก็สามารถทำให้แมวฉี่ไม่ออกได้เช่นกัน เนื้องอกอาจเกิดขึ้นที่กระเพาะปัสสาวะ ท่อปัสสาวะ หรือแม้กระทั่งที่ไต ซึ่งจะไปขัดขวางการไหลของปัสสาวะ อาการที่มักพบคือแมวฉี่เป็นเลือดบ่อยครั้ง น้ำหนักลดโดยไม่ทราบสาเหตุ และมีอาการซึมหรือเบื่ออาหาร หากพบอาการผิดปกติเหล่านี้ โดยเฉพาะในแมวสูงอายุ ควรรีบพาไปตรวจเพิ่มเติมกับสัตวแพทย์เพื่อหาสาเหตุทันที


8. ภาวะแทรกซ้อนหากปล่อยไว้นาน : การที่แมวไม่สามารถขับปัสสาวะได้เป็นเวลานาน จะทำให้ของเสียคั่งค้างในร่างกายอย่างรวดเร็ว หากปล่อยทิ้งไว้ ไตอาจหยุดทำงานจนเกิดภาวะไตวายเฉียบพลัน นอกจากนี้ยังมีความเสี่ยงที่แบคทีเรียจะแพร่เข้าสู่กระแสเลือดจนกลายเป็นภาวะติดเชื้อรุนแรง และหากกระเพาะปัสสาวะที่โป่งพองจากการที่มีปัสสาวะมากเกินไปก็อาจแตกได้ ซึ่งทั้งหมดนี้ล้วนแต่เป็นอันตรายถึงชีวิต


แมวพักฟื้นหลังการรักษาโรคทางเดินปัสสาวะในโรงพยาบาลสัตว์

วิธีดูแลเบื้องต้นเมื่อพบว่าแมวฉี่ไม่ออก


วิธีดูแลเบื้องต้นเมื่อแมวมีอาการปัสสาวะไม่ออก


หากเจ้าของสังเกตว่าแมวเริ่มมีอาการผิดปกติเกี่ยวกับการขับปัสสาวะ ควรปฏิบัติดังนี้


สิ่งที่ควรทำ


  • แยกแมวออกมาอยู่ในพื้นที่ที่สงบ เพื่อให้สามารถสังเกตอาการได้อย่างใกล้ชิด

  • จดบันทึกเวลาที่เริ่มสังเกตว่าแมวไม่ถ่ายปัสสาวะ

  • บันทึกพฤติกรรมที่ผิดปกติ เช่น การร้อง เสียง การเบ่ง หรืออาการซึม เพื่อแจ้งสัตวแพทย์ได้อย่างละเอียด

  • เตรียมข้อมูลเหล่านี้ไว้เมื่อต้องพาแมวไปพบสัตวแพทย์ จะช่วยให้วินิจฉัยได้รวดเร็วและแม่นยำขึ้น


สิ่งที่ไม่ควรทำอย่างเด็ดขาด


  • ห้ามพยายามนวดหรือกดท้องแมวเพื่อบีบปัสสาวะออกเอง เพราะอาจทำให้กระเพาะปัสสาวะแตกหรือฉีกขาดได้

  • ห้ามทดลองวิธีรักษาที่ได้จากโลกออนไลน์ เช่น การให้ แมวฉี่ไม่ออก กินน้ำมะพร้าว หรือผสมสารส้มให้ดื่ม เพราะนอกจากจะไม่ช่วยให้อาการดีขึ้นแล้ว ยังอาจทำให้เกิดอันตรายต่อสุขภาพยิ่งกว่าเดิม


สัญญาณที่ควรรีบพาไปโรงพยาบาลสัตว์


หากแมวไม่ฉี่เลยภายใน 12–24 ชั่วโมง แมวฉี่น้อยมาก แมวฉี่เป็นเลือด ร้องเสียงดังด้วยความเจ็บปวด หรือมีอาการซึมและอาเจียนร่วมด้วย ถือเป็นภาวะฉุกเฉินที่ต้องรีบนำส่งโรงพยาบาลสัตว์ทันที โดย โรงพยาบาลสัตว์พญาไท 7 ถือเป็นหนึ่งในสถานพยาบาลที่มีทีมสัตวแพทย์เฉพาะทางด้านระบบทางเดินปัสสาวะในแมว พร้อมบริการตรวจวินิจฉัยและรักษาตลอด 24 ชั่วโมง ทั้งการทำ X-ray, Ultrasound, การสวนปัสสาวะ รวมไปถึงมีคลินิกแมวดูแลเฉพาะทางอีกด้วย เพื่อให้มั่นใจได้เลยว่าน้องแมวของคุณจะได้รับการรักษาที่ดีที่สุดอย่างแน่นอน


แนวทางการรักษาโดยสัตวแพทย์


เมื่อแมวมีภาวะปัสสาวะไม่ออก สิ่งสำคัญที่สุดคือการพาไปพบสัตวแพทย์โดยเร็ว เพื่อป้องกันภาวะแทรกซ้อนที่อาจถึงชีวิตได้ การรักษาจะขึ้นอยู่กับสาเหตุและความรุนแรงของอาการ โดยมีขั้นตอนหลัก ๆ ดังนี้


การวินิจฉัย : สัตวแพทย์จะทำการตรวจร่างกายและซักประวัติเพื่อหาสาเหตุ พร้อมกับการตรวจเพิ่มเติม เช่น


  • การตรวจปัสสาวะ (Urinalysis): ตรวจหาการติดเชื้อ, ค่า pH, ตะกอน หรือคริสตัลในปัสสาวะ

  • เอกซเรย์ (X-ray): ใช้หาตำแหน่งนิ่วหรือสิ่งอุดตันในทางเดินปัสสาวะ

  • อัลตราซาวด์ (Ultrasound): ช่วยดูโครงสร้างของกระเพาะปัสสาวะ ก้อนเนื้อ หรือการอักเสบ


วิธีการรักษาทั่วไป : แนวทางการรักษาทั่วไปมีดังนี้


  • การสวนปัสสาวะ (Catheterization): ใส่สายสวนเพื่อเปิดทางให้น้ำปัสสาวะออกและลดแรงดันในกระเพาะปัสสาวะ

  • การให้สารน้ำทางหลอดเลือด (IV fluid): เพื่อแก้ภาวะขาดน้ำ และช่วยล้างของเสียออกจากร่างกาย

  • การใช้ยา: เช่น ยาคลายกล้ามเนื้อทางเดินปัสสาวะ, ยาลดอักเสบ, ยาปฏิชีวนะ (กรณีติดเชื้อ) หรือยาแก้ปวด


การรักษาด้วยการผ่าตัด : หากมีการอุดตันซ้ำบ่อย ๆ หรือมีนิ่วที่ไม่สามารถรักษาด้วยวิธีทั่วไปได้ อาจต้องพิจารณาการผ่าตัด เช่น การผ่าตัดเอานิ่วออก หรือ การผ่าตัดเปลี่ยนทางเดินปัสสาวะ (Perineal urethrostomy: PU surgery) ในกรณีที่ท่อปัสสาวะอุดตันเรื้อรัง


การป้องกันปัญหาแมวฉี่ไม่ออก


แมวใส่คอลล่าหลังการรักษา ปัญหาปัสสาวะแมวอักเสบ

เจ้าของสามารถลดความเสี่ยงได้ด้วยการกระตุ้นให้แมวดื่มน้ำมากขึ้น ควบคุมปัจจัยเสี่ยง และลดความเครียดของน้องแมว โดยมีวิธีการที่ทำเองได้ง่ายๆ ดังนี้


1. น้ำพุแมว : การใช้น้ำพุแมวจะช่วยกระตุ้นให้แมวดื่มน้ำได้มากขึ้นเพราะแมวมีนิสัยชอบดื่มน้ำที่มีลักษณะไหลหรือมีการเคลื่อนไหว


2. ให้อาหารเปียก : การผสมอาหารเปียกในอาหารมื้อหลักก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่ทำให้แมวได้รับน้ำเพิ่มขึ้นได้ เพราะในอาหารเปียกมีน้ำอยู่เป็นจำนวนมาก ทำให้เมื่อแมวกินอาหารเปียกเข้าไปก็จะได้รับน้ำไปพร้อมกัน


3. จัดการสิ่งแวดล้อม : ควรให้น้องแมวได้อยู่ในพื้นที่ที่สงบ ไม่มีเสียงดังรบกวนตลอดเวลา เพื่อลดความเครียดของแมว 


4. ดูแลความสะอาดของกระบะทราย : รู้หรือไม่ว่ากระบะทรายที่สกปรกก็จะทำให้น้องแมวไม่ปัสสาวะได้ ดังนั้น เจ้าของควรทำความสะอาดกระบะทรายเป็นประจำเพื่อป้องกันการสะสมของเชื้อโรค และควรมีกระบะทรายเพียงพอต่อน้องแมว โดยตามหลักการคือควรมีมากกว่าจำนวนแมวที่เลี้ยงอยู่ 1 กระบะทรายอยู่เสมอ


5. ควบคุมน้ำหนัก : อย่าลืมควบคุมน้ำหนักของแมวไม่ให้อ้วนเกินไปเพื่อลดความเสี่ยง และพาน้องไปตรวจสุขภาพประจำปีอย่างสม่ำเสมอ


อาหารแมวที่ช่วยดูแลระบบปัสสาวะ


อาหารถือเป็นส่วนสำคัญที่ช่วยป้องกันปัญหานี้ได้ โดยอาหารสำหรับดูแลระบบทางเดินปัสสาวะควรช่วยปรับสมดุลค่า pH ของปัสสาวะ ไม่ให้เป็นกรดหรือด่างเกินไป ควรลดปริมาณเกลือ ฟอสฟอรัส และแมกนีเซียม เพื่อป้องกันการตกตะกอนและการก่อก้อนนิ่ว แต่อย่างไรก็ดีการเลือกใช้อาหารเพื่อการรักษาควรปรึกษาสัตวแพทย์ก่อนทุกครั้งเพื่อเลือกใช้สูตรอย่างถูกต้องตรงตามปัญหาที่น้องแมวเป็นอยู่



อาการ แมวฉี่ไม่ออก ไม่ใช่ปัญหาเล็ก ๆ ที่ควรรอดูไปก่อน แต่เป็นภาวะฉุกเฉินที่อาจทำให้น้องแมวเสียชีวิตได้ เจ้าของจึงควรสังเกตพฤติกรรมอย่างใกล้ชิด และรีบนำแมวไปพบสัตวแพทย์ทันทีที่พบความผิดปกติ แม้จะมีวิธีดูแลเบื้องต้นที่ช่วยประคับประคองอาการ แต่ก็ไม่อาจทดแทนการรักษาที่ถูกต้องจากผู้เชี่ยวชาญได้


ในระยะยาว การดูแลสุขภาพของแมวควรครอบคลุมทั้งการจัดสิ่งแวดล้อมให้ลดความเครียด การเลือกอาหารที่เหมาะสม และการตรวจสุขภาพอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้น้องแมวของคุณมีสุขภาพดีและอยู่เคียงข้างไปนาน ๆ และหากมีเหตุฉุกเฉิน โรงพยาบาลสัตว์พญาไท 7 ก็พร้อมให้บริการดูแลน้องแมวของคุณอย่างครบวงจรตลอด 24 ชั่วโมง ด้วยทีมสัตวแพทย์ที่เชี่ยวชาญด้านโรคแมวโดยเฉพาะ


Comments


© 2025 by PHYATHAI 7 Group Co., Ltd

  • Instagram
  • TikTok
line-me.png
bottom of page