เห็บหมามาจากไหน? วิธีกำจัดหมัด-เห็บ และการป้องกันไม่ให้กลับมาอีก
- phyathai7 pet care
- 3 days ago
- 2 min read

เชื่อว่าเหล่าทาสหมาทุกคนต้องเคยได้ยินชื่อของ “เห็บหมา” ที่มาพร้อมกับความเข้าใจว่ามันคืออะไรสักอย่างที่มากินเลือดน้องหมาของเรา สร้างความรำคาญ ทำให้น้องมีอาการคันเกา แต่แท้จริงแล้ว “เห็บ” ทำเพียงแค่นั้นหรือไม่? และเห็บคืออะไร? ทำไมถึงเป็นปรสิตที่ทุกคนควรให้ความสำคัญ
เห็บหมาคืออะไร? ทำความรู้จักศัตรูตัวจิ๋วของน้องหมา
เห็บ เป็นหนึ่งในปรสิตภายนอกที่มีชีวิตโดยอาศัยดูดกินเลือดของน้องหมาและน้องแมว วงจรชีวิตของเห็บมี 4 ระยะ ตั้งแต่ไข่ ตัวอ่อน ตัวกลางวัย จนถึงตัวเต็มวัย เห็บอาศัยอยู่บนตัวน้องหมาได้ทุกระยะ (ยกเว้นระยะไข่) แต่จะวนเวียนลงมาลอกคราบเติบโตเข้าสู่ระยะใหม่นอกตัวน้องหมา และกลับขึ้นไปใหม่เพื่ออาศัยดูดกินเลือด
แม้วงจรชีวิตเห็บจะคล้ายแมลง แต่แท้จริงแล้ว เห็บไม่ใช่แมลง เพราะเห็บตัวเต็มวัยจะมีแปดขา มีลักษณะแบนในแนวราบ แตกต่างจากหมัดที่เป็นแมลง มีหกขา ลักษณะตัวแบนในแนวตั้ง นอกจากนี้เห็บยังไม่กระโดด แตกต่างจากหมัดที่กระโดดได้ไกลเป็นเมตรเลยทีเดียว
การที่เห็บมีการขึ้น-ลงจากตัวน้องหมาในทุกระยะ ทำให้เราไม่มีทางรู้เลยว่าเห็บที่จะมาสู่บ้านของเราอยู่ในระยะอะไร ถ้าเป็นแม่เห็บที่มีไข่เห็บเต็มท้อง จะสามารถวางไข่ได้ถึง 7,000 ฟอง แถมตัวอ่อนเห็บที่ฟักออกมาสามารถอยู่ในสิ่งแวดล้อมได้นานแม้ไม่ได้กินอะไรเลยเป็นเวลากว่า 8 เดือน ! จึงเป็นที่มาว่าทำไมเราจึงควรจัดการเห็บให้เร็วที่สุด
เห็บหมามาจากไหน? สาเหตุที่น้องหมาติดเห็บเกิดจากอะไรได้บ้าง

จุดนัดพบของน้องหมาและเห็บเกิดได้หลายที่เลยทีเดียว และขึ้นกับไลฟ์สไตล์ของน้องหมาด้วย น้องหมานักเที่ยวที่ชอบออกนอกบ้านมีโอกาสเจอเห็บได้มากกว่าน้องหมาที่อยู่ในบ้านอย่างเดียว อาจเจอได้ตั้งแต่ในสิ่งแวดล้อมรอบบ้าน ทั้งสนามหญ้าหน้าบ้าน พื้นดิน ซอกต่าง ๆ ไปจนถึงพื้นที่ไกลบ้าน อย่าง สวนสาธารณะ ร้านกรูมมิ่ง คลินิกรักษาสัตว์ ไม่เพียงเท่านั้นในงานรวมตัวต่าง ๆ ของน้องหมา ก็ถือเป็นพื้นที่เสี่ยงที่มีการระบาดของเห็บเช่นกัน
แต่การเลี้ยงน้องหมาในบ้าน 100% ก็ไม่ได้แปลว่าน้องหมาจะปลอดภัยจากเห็บ เพราะไม่ว่าอย่างไรโอกาสที่เห็บจะมาถึงตัวน้องหมาก็เกิดขึ้นได้เสมอ เห็บอาจแฝงมากับรองเท้า เสื้อผ้า หรือสิ่งของที่เจ้าของนำเข้ามาในบ้าน เห็บยังอยู่อาศัยได้ดีในพื้นที่ในบ้าน เช่น พรม ผ้าม่าน เฟอร์นิเจอร์ต่าง ๆ ทนอยู่ได้นานแม้ไม่ได้ดูดเลือด ซึ่งเพิ่มโอกาสที่จะไปสู่ตัวน้องหมามากยิ่งขึ้น
รวมถึงในสถานการณ์ที่มีสมาชิกตัวใหม่ในบ้าน ไม่ว่าจะเป็นเจ้าโฮ่งหรือเจ้าเหมียวก็มีโอกาสนำพาเห็บเข้ามาได้ ยิ่งการเลี้ยงหลายตัว อย่างที่ได้กล่าวไปว่าเห็บจะมีการขึ้น-ลงจากตัวน้องหมาในทุกระยะการเติบโต นั่นหมายถึงโอกาสที่เห็บจะไปติดน้องตัวอื่น ๆ ก็มีเพิ่มขึ้นเช่นกัน ซึ่งนำไปสู่การติดต่อของโรคที่มีพาหะเป็นเห็บนั่นเอง
อาการเมื่อหมามีเห็บ ควรสังเกตยังไง?
ในช่วงแรกที่น้องหมาติดเห็บหมา อาจเป็นระยะที่สังเกตอาการได้ยาก เพราะเห็บจำนวนน้อย มักไม่ก่ออาการที่ชัดเจน จึงต้องอาศัยการสังเกตจากเจ้าของเป็นส่วนสำคัญ โดยเฉพาะบริเวณจุดอับของร่างกาย เช่น ซอกหู รักแร้ ขาหนีบ โคนหาง รวมถึงซอกนิ้วต่าง ๆ แต่เมื่อเห็บเพิ่มจำนวนมากขึ้น น้องหมาจะเริ่มแสดงอาการคัน เกา เลีย หรือกัดตัวเอง รวมถึงอาจพบการระคายเคือง เช่น ผิวหนังบวมแดง รวมถึงพบแผลหรือขนร่วงจากการเกา หากสุนัขมีเห็บเยอะมากทั่วร่างกาย โดยเฉพาะในน้องหมาเด็ก จะส่งผลให้เกิดอาการรุนแรง พัฒนาเป็นภาวะโลหิตจางได้ น้องหมาจะมีอาการซึม เหงือกซีด อ่อนแรง ซึ่งควรพาน้องไปพบสัตวแพทย์โดยด่วน
เห็บหมาอันตรายไหม? โรคที่อาจเกิดจากเห็บ
เห็บไม่เพียงแค่สร้างความรำคาญและดูดเลือดจากน้องหมาเท่านั้น แต่ยังสามารถก่อโรครวมถึงเป็นพาหะที่สามารถพาโรคอันตรายรุนแรงถึงชีวิตมาสู่น้องหมาได้!
โรคพยาธิเม็ดเลือด Ehrlichiosis
เกิดจากเชื้อแบคทีเรีย Ehrlichia canis ติดต่อผ่านการโดนเห็บที่มีเชื้อกัด โดยเชื้อนี้จะอาศัยที่เซลล์เม็ดเลือดขาวโมโนไซต์ ก่อโรคทำให้เกิดอาการซึม เบื่ออาหาร มีไข้ น้ำหนักลด ซีด โลหิตจาง ต่อมน้ำเหลืองและม้ามโต
โรคพยาธิเม็ดเลือด Babesiosis
เป็นโรคพยาธิเม็ดเลือดที่ติดต่อผ่านการโดนเห็บที่มีเชื้อกัดเช่นเดียวกัน แต่เกิดจากเชื้อโปรโตซัว Babesia sp. ที่สามารถทำลายเม็ดเลือดแดงและเกล็ดเลือดได้ จึงก่อให้เกิดอาการมีไข้ ซึม เบื่ออาหาร ซีด อาจพบจุดเลือดออกตามตัว หรือตัวเหลืองได้
โรคพยาธิเม็ดเลือด Hepatozoonosis
เกิดจากเชื้อโปรโตซัว Hepatozoon sp. โดยเชื้อสามารถเข้าสู่ตัวน้องหมาได้ผ่านการกินเห็บที่มีเชื้อเข้าไป ก่อให้เกิดอาการมีไข้ เบื่ออาหาร น้ำหนักลด ปวดกล้ามเนื้อ กล้ามเนื้อขาอ่อนแรง
ภาวะโลหิตจาง
เกิดจากการมีเห็บปริมาณมาก จึงทำให้สูญเสียเลือดในปริมาณมาก จนมีอาการซึม เบื่ออาหาร ซีด และอ่อนแรงได้ มีโอกาสเกิดในสุนัขอายุน้อยมากกว่าสุนัขโตเต็มวัย
นอกจากนี้เห็บบางชนิดยังสามารถนำโรคมาสู่คนได้อีกด้วย เช่น โรค Lyme disease และโรค tick borne encephalitis แม้เห็บสุนัขที่พบในประเทศไทยจะไม่ค่อยกัดคน แต่การป้องกันและจัดการเห็บยังคงเป็นสิ่งที่สมควรทำเพื่อลดโอกาสการระบาดของโรคเห็บที่ติดจากสัตว์สู่คน
วิธีกำจัดเห็บหมาแบบปลอดภัย ได้ผลจริง

เมื่อมีเห็บระบาดในบ้าน การจัดการกับเห็บให้หมดจดถือเป็นสิ่งที่ท้าทายสำหรับเหล่าทาสหมา เพราะเห็บอาศัยอยู่ทั้งบนตัวน้องหมาและในสิ่งแวดล้อม ดังนั้นการจัดการเห็บจะต้องอาศัยการจัดการทั้งที่ตัวน้องหมาเองและสิ่งแวดล้อมไปควบคู่กัน
การจัดการเห็บบนตัวน้องหมา
ยากําจัดเห็บหมัดสุนัขรูปแบบกิน มักอยู่ในรูปแบบเม็ดเคี้ยว สามารถออกฤทธิ์ได้ยาวนาน 1-3 เดือน (แล้วแต่ที่ผลิตภัณฑ์ระบุ) มีข้อดีคือ หากน้องหมาได้รับยาในปริมาณที่ถูกต้อง ก็สามารถมั่นใจว่ายาจะออกฤทธิ์ครอบคลุมตามระยะเวลาที่ผลิตภัณฑ์ระบุ แต่มีข้อเสียคือ อาจป้อนได้ยากในน้องหมาดุ
ยากําจัดเห็บหมัดสุนัขรูปแบบหยดหลัง สามารถออกฤทธิ์ได้ยาวนาน 1-3 เดือน (แล้วแต่ที่ผลิตภัณฑ์ระบุ) มีข้อดีคือใช้ได้ง่าย เพียงหยดไปที่หลังของน้องหมา บริเวณที่เลียไม่ถึง แต่มีข้อเสียคือ อาจมีปัจจัยที่ส่งผลให้ผลิตภัณฑ์ไม่ครอบคลุมตามระยะเวลาที่กำหนด เช่น กรณีอาบน้ำทันทีหลังหยดผลิตภัณฑ์ หรือว่ายน้ำบ่อย
ยากําจัดเห็บหมัดหมารูปแบบปลอกคอ สามารถออกฤทธิ์ได้ยาวนาน 7-8 เดือน (แล้วแต่ที่ผลิตภัณฑ์ระบุ) มีข้อดีคือป้องกันปรสิตได้ยาวนาน แต่มีข้อเสียคือต้องใส่ปลอกคอไว้ตลอดเวลาเพื่อประสิทธิภาพต่อเนื่อง
ดึงเห็บออก เมื่อเราเจอตัวเห็บบนน้องหมา เราสามารถช่วยดึงออกได้อย่างปลอดภัย ด้วยการใส่ถุงมือ ใช้แหนบคีบใกล้บริเวณส่วนหัวของเห็บ ดึงออกมาตรงๆ ห้ามบิดหมุนเพราะจะทำให้ส่วนปากของเห็บคาอยู่ที่ผิวหนังน้องหมา ต่อมาแช่ตัวเห็บในแอลกอฮอลเช็ดแผล เพื่อความสะอาดและให้มั่นใจว่าเห็บไม่สามารถกลับมาขึ้นน้องหมาได้อีก
การจัดการเห็บในสิ่งแวดล้อม
ใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดพื้นผิวที่มีคุณสมบัติกำจัดเห็บ โดยผสมตามอัตราส่วนที่ผลิตภัณฑ์แนะนำ เท ราด หรือฉีดพ่นในบริเวณพื้นที่อยู่อาศัยของน้องหมา
ทำความสะอาดวัสดุปูรองพื้น ที่นอน เครื่องใช้ และของเล่นของน้องหมาภายใต้อุณหภูมิสูง
ใช้เครื่องดูดฝุ่นทำความสะอาดแต่ละพื้นที่โดยละเอียด โดยเฉพาะตามซอกมุมต่าง ๆ
สามารถใช้บริการนักกำจัดเห็บมืออาชีพ หากต้องการความมั่นใจและประสิทธิภาพสูงสุด
ทั้งนี้การเลือกใช้ผลิตภัณฑ์กำจัดเห็บทั้งบนตัวน้องหมาหรือในสิ่งแวดล้อมควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่ได้มาตรฐาน เลือกซื้อจากแหล่งที่เชื่อถือได้ โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์ที่ใช้บนตัวน้องหมา เนื่องจากในปัจจุบันมีการใช้ยาปลอมแปลงหรือยาเถื่อนจำนวนมาก ซึ่งนอกจากจะไม่ได้ผลตามที่คาดหวังแล้ว ยังอาจก่อให้เกิดอันตรายต่อสุขภาพสุนัขได้
โดยที่โรงพยาบาลสัตว์พญาไท 7 มีทีมสัตวแพทย์ด้านโรคผิวหนังสัตว์เลี้ยง สามารถให้คำปรึกษาและให้บริการจัดการเห็บอย่างมืออาชีพ
วิธีป้องกันไม่ให้เห็บกลับมาอีก
ควรดูแลสิ่งแวดล้อมที่บ้านให้สะอาด เพื่อลดโอกาสไม่ให้เห็บเจริญเติบโตภายในบ้าน โดยควรทำความสะอาดพื้นที่อยู่อาศัยของน้องหมาเป็นประจำทุกสัปดาห์ แต่อย่างไรก็ตามการกำจัดเห็บในสิ่งแวดล้อมให้หมดไปถือเป็นเรื่องที่ท้าทาย เนื่องจากเห็บเป็นปรสิตที่คงทนในสิ่งแวดล้อม เพราะฉะนั้นจึงควรป้องกันน้องหมาจากเห็บด้วยผลิตภัณฑ์กำจัดปรสิตอยู่เสมอ ตามระยะเวลาที่เหมาะสมของแต่ละผลิตภัณฑ์อย่างต่อเนื่อง รวมถึงหมั่นสังเกตน้องหมาอยู่เสมอเพื่อให้จัดการกับเห็บได้อย่างทันท่วงที
จะเห็นว่าแม้เห็บจะตัวเล็ก แต่ก็ไม่ใช่ปัญหาเล็ก ๆ ที่ทาสหมาอย่างเราจะมองข้ามได้เลย เพราะเห็บไม่เพียงแค่สร้างความรำคาญแต่ยังนำพาโรคร้ายมาสู่น้องหมาได้อีกด้วย ดังนั้นการ “ป้องกันเห็บ” ก่อนที่เห็บจะเข้าบ้านจึงเป็นเรื่องที่สำคัญ รวมไปถึงการดูแลใส่ใจและสังเกตน้องหมาอยู่บ่อย ๆ จะช่วยให้ตรวจพบสัญญาณผิดปกติได้เร็ว เพื่อให้พาน้องไปพบสัตวแพทย์ได้อย่างทันท่วงที
โดยหากคุณกำลังมองหาคำแนะนำหรือแนวทางในการจัดการเห็บ รวมถึงปรสิตชนิดอื่นเพิ่มเติม สามารถปรึกษาคุณหมอด้านโรคผิวหนังสัตว์เลี้ยงได้ที่ โรงพยาบาลสัตว์พญาไท 7 ทีมสัตวแพทย์ทุกคนพร้อมช่วยวางแผนดูแลน้องหมาให้มีสุขภาพแข็งแรงอย่างรอบด้าน ห่างไกลจากเห็บหมัดได้อย่างปลอดภัยและยั่งยืน
Comments